“โรงแรมแม่น้ำ” กับการรีโนเวตพื้นให้ร่วมสมัยภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด

หากจะมีที่ไหนในกรุงเทพฯ ที่ดึงดูดผู้คนทั้งไทยและต่างชาติ ให้หลงเสน่ห์เมืองใหญ่แห่งนี้ ‘ริมแม่น้ำเจ้าพระยา’ คงเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก แม้วิถีชีวิตของคนไทยจะเปลี่ยนไปเท่าไร แต่พื้นที่ริมน้ำก็ยังเป็นที่พักกายพักใจที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งอยู่เสมอ เพราะเหตุนี้โรงแรมริมน้ำจึงยังสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนไม่รู้ลืม และสถานที่หนึ่งที่ครองใจผู้คนมายาวนานก็คือ “โรงแรมแม่น้ำ” หรือโรงแรมรามาดาพลาซานั่นเอง

ทว่าชื่อเสียงที่ยาวนานก็ย่อมมาพร้อมกับโจทย์ใหญ่ ในการดูแลรักษาทุกพื้นที่ให้ประทับใจแขกผู้มาเยือนอยู่เสมอ เพราะเมื่อเป็นโรงแรมใหญ่ นั่นหมายถึงการต้อนรับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกตลอดเวลา การจะปรับปรุงพื้นที่ใดๆ ก็ตามจึงมีกรอบจำกัดเรื่องความรวดเร็ว และที่สำคัญคือการดีไซน์ใหม่จะต้องไม่กลบทับความเป็นตัวตนเดิมที่มีมาก่อน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความรู้สึกแปลกตาและร่วมสมัยขึ้นด้วย

โดยเฉพาะพื้นที่ที่ถือเป็น ‘ภาพจำ’ ของโรงแรม อย่างห้องอาหาร “The Terrace @72” ห้องอาหารริมน้ำที่ผู้มาเยือนหลงใหลในวิวโดยรอบ เมื่อถึงเวลารีโนเวต โรงแรมจึงเลือกปรับปรุงส่วนห้องอาหารดังกล่าว ควบคู่ไปกับพื้นที่ทางเดินไปริมแม่น้ำ และรอบสระน้ำ ที่เป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์ของห้องอาหาร ให้กลมกลืนอย่างสวยงาม โดยได้ทีมดีไซเนอร์จาก “Artelier 8” มาช่วยดูแลโปรเจกต์นี้

“พื้น” หัวใจแห่งความร่วมสมัยแต่ไม่ก้าวล้ำ

เมื่อพูดถึงการรีโนเวต หลายๆ ครั้งเรามักเห็นภาพการเปลี่ยนพื้นที่จากหน้ามือเป็นหลังมือ ชนิดที่ทุบสร้างใหม่แบบแทบจะไร้โครงเดิม แต่กับโรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซาแห่งนี้ โจทย์ของการรีโนเวตกลับเรียบง่ายตรงตัว นั่นคือการปรับปรุงให้พื้นที่ของโรงแรมกลับคืนสู่สภาพดี เป็นสถานที่ที่ผู้มาเยือนรู้สึกคุ้นเคย อบอุ่นแบบที่เป็นมา หากในขณะเดียวกันก็ต้องก้าวไปตามกาลเวลา คือมีความร่วมสมัย หรูหรา ไม่ตกยุค ภายใต้กรอบของความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสไตล์เดิม โดยเฉพาะ “พื้น” ที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการปรับปรุงครั้งนี้

“โจทย์ของทางโรงแรมคือการตกแต่งอย่างร่วมสมัยและเน้นการใช้ประโยชน์เป็นหลัก ไม่ได้ต้องการความแปลกใหม่สุดขั้ว เพราะโรงแรมเองมีความโดดเด่นด้านทำเลริมน้ำอยู่แล้ว เราจึงพยายามออกแบบไม่ให้ไปรบกวนบรรยากาศหรือสถานที่เดิม ห้องอาหารนี้เราเลยเน้นการรีโนเวตที่พื้นเป็นหลัก คือกว่า 50% ของงาน เพราะเวลาเราไปอยู่ตรงนั้น เมื่อแสง Day light ส่องมาที่พื้นจะทำให้รู้สึกให้มีพลัง เราจึงให้ความสำคัญกับตัวพื้นที่สุด”

คุณน้ำ – ดวงธิดา บุญให้ ดีไซเนอร์ผู้ดูแลโปรเจกต์เล่าถึงหัวใจของการออกแบบของโปรเจกต์นี้  ซึ่งครอบคลุมการทำงานสามส่วน คือพื้นห้องอาหาร ทางเดินไปริมแม่น้ำ และพื้นรอบสระน้ำของโรงแรม

“ดีไซน์-ความทนทาน-เวลา” 3 ปัจจัยที่สำคัญของงานรีโนเวต

แม้พื้นที่ที่รีโนเวตจะมีทั้งพื้นห้องอาหารภายใน (Indoor) พื้นทางเดินกึ่งภายนอก (Semi-Outdoor) และพื้นรอบสระที่อยู่ภายนอก (Outdoor) แต่ทีมออกแบบได้กำหนดกรอบสำคัญในการทำงานของทั้งสามพื้นที่ ผ่านสามปัจจัยหลัก ได้แก่ “ดีไซน์” ที่สวยงาม เพราะหากโรงแรมไม่มีความสวยงาม ก็ยากจะดึงดูดผู้มาเยือนได้ และเพื่อความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ดีไซเนอร์จึงเลือกวัสดุปูพื้นด้วยสไตล์ที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ แต่ยังต้องตอบรับกับปัจจัยที่สอง นั่นคือ “ความทนทาน” เพราะพื้นของโรงแรมจะถูกใช้งานตลอดเวลา โดยเฉพาะพื้นห้องอาหารที่เป็น All day dining จึงต้องรองรับน้ำหนักได้มาก และใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องซ่อมแซมบ่อย

ส่วนปัจจัยสุดท้ายคือ “ระยะเวลา” ในการรีโนเวต เนื่องจากโรงแรมต้องเปิดให้บริการตลอด ไม่สามารถปิดปรับปรุงได้นาน กรอบเวลาที่สามารถทำได้คือประมาณ 2 เดือนเท่านั้น ดังนั้น วัสดุที่เลือกใช้จึงจำเป็นต้องเป็นวัสดุที่มีสต็อกเพียงพอสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ และใช้งานง่าย ได้งานที่สมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องใช้เวลานาน

กระเบื้อง ITALIA COLLECTION จาก COTTO คำตอบของ “พื้น” ที่เติมเต็มทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน

อย่างที่เราทราบกันดีว่า กระเบื้องเป็นวัสดุตกแต่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมาโดยตลอด ด้วยคุณสมบัติที่คงทนแข็งแรง และด้วยการผลิตที่ทันสมัยยิ่งขึ้น จึงทำให้กระเบื้องมีลวดลายและสีสันสมจริงเสมือนวัสดุธรรมชาติ ทำให้เราสามารถใช้แทนวัสดุธรรมชาติเช่น หิน หินอ่อน หรือไม้ที่มีข้อจำกัดในด้านคุณสมบัติต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

“เราเลือกใช้กระเบื้องที่ดูแล้วคล้ายหิน ซึ่งคงทนและให้ความรวดเร็ว ลายควบคุมง่ายกว่าหิน ด้วยความที่หินเป็นธรรมชาติมาก ควบคุมลายแร่ไม่ได้ และคุณสมบัติของหินเองที่น้ำสามารถซึมผ่านรูพรุนของหินธรรมชาติ ทำให้ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน”

โดยผู้ออกแบบได้เลือกใช้กระเบื้อง ITALIA COLLECTION จาก COTTO ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตการประเทศอิตาลี ที่ให้ลวดลายเป็นธรรมชาติอย่างสวยงาม มีคุณสมบัติด้านการใช้งานที่คงทน รวมถึงการมีสต็อกในประเทศไทยปริมาณมาก ทำให้ไม่ต้องรอเวลาในการนำเข้า และที่สำคัญคือติดตั้งได้รวดเร็ว ทำให้ควบคุมระยะเวลาการทำงานได้

 ITALIA COLLECTION จาก COTTO ซีรีส์ MARBLE TWO สี ARMANI GREY

“พื้นห้องอาหาร เราเลือกใช้เป็นกระเบื้องเงาของซีรีส์ MARBLE TWO สี ARMANI GREY ความเงาและลายแร่สีขาวทำให้คล้ายหินธรรมชาติมาก ไม่รู้สึกเป็นแพตเทิร์น พื้นเดิมของห้องอาหารจะเป็นสีขาวครีม ในครั้งนี้เราเลือกเป็นสีเทาที่ดูเทรนดี้ขึ้น เมื่อมีแสงกลางวันส่องเข้าไปจะดูแข็งแรงลงตัว ไม่มืดทึบและไม่อึดอัด แต่หรูหราและมีพลัง”

นอกจากส่วนของห้องอาหารแล้ว ทางเดินที่เป็น Semi-Outdoor ก็ใช้เป็น ITALIA COLLECTION จาก COTTO เช่นกัน โดยใช้ซีรีส์ MARBLE ONE สี VOLAKAS – MATT

 ITALIA COLLECTION จาก COTTO ซีรีส์ MARBLE ONE สี VOLAKAS – MATT

“หิน White Volakas จะเป็นหินสีขาวมีลวดลายสีเทาสวยงามมาก แต่ในงานรีโนเวตพื้นที่กึ่งเอาต์ดอร์ไม่สามารถใช้หินจริงได้ เพราะถ้าโดนแสงนานๆ หินจะค่อยๆ เหลือง พอเจอซีรีส์ MARBLE ONE สี VOLAKAS ใน ITALIA COLLECTION ของ COTTO ก็รู้สึกว่าออกแบบมาได้เหมือนหินจริงมาก แต่คุณสมบัติดีกว่า ควบคุมลายได้ สวยงามสม่ำเสมอ ผิวแมตช์เหมาะกับการใช้กึ่งภายนอกที่อาจโดนละอองฝน หรือคนเดินเหยียบน้ำมาก็จะไม่ลื่น”

ITALIA COLLECTION จาก COTTO ซีรีส์ PIETRA สี QUARTZITE BEIGE

ส่วนพื้นรอบสระน้ำ เป็นพื้นที่พิเศษที่ต้องให้ความสำคัญกับการกันลื่น แต่ยังคงความสวยงามไว้ได้อย่างเหมาะสม ผู้ออกแบบได้เลือกใช้ซีรีส์ PIETRA สี QUARTZITE BEIGE ที่มีค่า R10 พร้อมลวดลายธรรมชาติสไตล์หินไลม์สโตน แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาตะไคร่น้ำเหมือนการใช้หินจริง

ITALIA COLLECTION จาก COTTO ซีรีส์ BALZA สี CARBON

นอกจากนี้ยังมีทางเดินติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ผู้ออกแบบได้ใช้ซีรีส์ BALZA สี CARBON กระเบื้องที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหินผาริมชายฝั่ง มีลวดลายอิสระเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือสามารถใช้งานในระดับ HC (Heavy Commercial) จึงเหมาะกับการใช้งานภายนอก รองรับน้ำหนักได้มาก และในทุกสภาพอากาศ แม้ติดตั้งริมน้ำก็ไม่บวมชื้น

มากกว่าวัสดุคุณภาพ คือการเป็นที่ปรึกษาที่รู้ใจนักออกแบบ

สำหรับใครที่ชื่นชอบบรรยากาศริมแม่น้ำ รักในสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน กับเสียงคลื่นน้ำที่ไหลเอื่อย ก็ลองหาเวลาไปพักผ่อนหรือทานอาหารที่โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซากันได้ นอกจากจะได้อิ่มเอมกับบรรยากาศแล้ว ยังอาจได้ไอเดียดีๆ ในการรีโนเวตพื้นให้ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงาม คงทน และรวดเร็ว ในทุกๆ ก้าวที่เดินผ่านกันก็เป็นได้

นอกจากกระเบื้องคุณภาพสูงที่มีเทคโนโลยีการผลิตทันสมัยแล้ว สิ่งที่นักออกแบบให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจากแบรนด์ ที่จะช่วยให้ทุกงานออกแบบง่ายขึ้น ซึ่ง COTTO ตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

ขอขอบคุณ
คุณน้ำ – ดวงธิดา บุญให้ | Designer
Dsign Something | Article