โอบกอดธรรมชาติได้มากกว่า ด้วยงานภูมิทัศน์ไร้ขอบเขต ที่ “IDEO MOBI Sukhumvit 40”

กว่าจะเป็นงานออกแบบดีๆ สักโครงการหนึ่งนั้น ต้องเกิดจากหลากหลายองค์ประกอบ เพื่อให้เป็นโครงการที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ตัวอาคารที่มีความสวยงามโดดเด่น ที่สัมพันธ์กับฟังก์ชันการใช้งาน จนถึงความสวยงามของการออกแบบ Space ภายในอาคาร และส่วนสุดท้ายที่มีความสำคัญไม่แพ้ตัวอาคาร ก็คือ “งานภูมิทัศน์” เพราะเป็นส่วนที่ทั้งสร้างชีวิตชีวา และช่วยส่งเสริมให้โครงการนั้นๆ เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีที่น่าอยู่อาศัย

โดยเฉพาะการสร้าง “พื้นที่ส่วนกลาง” ให้เป็นมากกว่าพื้นที่ที่มีไว้เป็นเพียงส่วนเสริมของโครงการ แต่ยังออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้จริง พร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการใช้งานในกิจกรรมที่หลากหลาย “สำหรับทุกคน” ได้อย่างครบครัน ซึ่งนั่นก็คือสิ่งหนึ่งที่ คุณเล็ก-นิภาพร วิบูลย์จักร์ แห่ง REDLAND-SCAPE LTD. เล็งเห็น และพยายามดึงศักยภาพพื้นที่ของโครงการเพื่อสร้างเป็นผลงานภูมิทัศน์ที่มีคุณภาพ และก่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด

“เราคิดภาพรวมสุดท้ายที่มันสวยและสร้างความประทับใจได้มากกว่า เราจึงเติมเต็มด้วยงานภูมิทัศน์ที่ให้ความเต็มอิ่มทั้งมุมมองและ Space ให้กับโครงการนี้” คุณเล็กบอกเล่ากับเราถึงแนวคิดที่น่าสนใจของการออกแบบงานภูมิทัศน์ในโครงการ IDEO MOBI Sukhumvit 40” โครงการคอนโด Low-Rise 8 ชั้น บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ซึ่งโดดเด่นด้วยตัวอาคารสไตล์โมเดิร์น มี Movement ของเส้นสายแนวนอนที่ให้ความเรียบหรูและทันสมัย ซึ่งอาคารถูกแบ่งออกเป็น 2 ตึก ที่มีลักษณะผังเป็นรูปตัวยูคว่ำเข้าหากัน เพื่อโอบล้อมพื้นที่สีเขียวไว้ภายในคอร์ทกลางชั้น 1 และถูกออกแบบให้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางในชั้นดาดฟ้าอีกด้วย

สำหรับการออกแบบงานภูมิทัศน์โครงการนี้ ผู้ออกแบบยังคงเน้นสื่อสารความเป็น Futuristic ด้วยเส้นสายที่นิ่งขึ้น แต่ยังคงให้ภาพลักษณ์ของความทันสมัย ด้วยแนวคิด Urban Oasis ซึ่งเน้นการผสมผสานความเป็นธรรมชาติและความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างสมดุล แต่เนื่องจากลักษณะผังของโครงการที่เป็นอาคารล้อมคอร์ทจึงทำให้มีพื้นที่สำหรับสวนและส่วนกลางเพียงตรงกลางซึ่งค่อนข้างเล็ก ผู้ออกแบบจึงปรับเพิ่ม space ร่วมกับสถาปนิกเพื่อสร้างการเชื่อมต่อทางมุมมองที่น่าสนใจและเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางให้มากขึ้น ทำให้ได้รูปแบบ space ใหม่ที่ถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศของธรรมชาติตั้งแต่คอร์ทกลางด้านล่างขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้าที่เชื่อมถึงกันได้อย่างลงตัว และสร้างทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น

ในการออกแบบฟังก์ชัน เราสามารถออกมาดื่มด่ำกับพื้นที่สวนได้ตั้งแต่ในชั้น 1 บริเวณ Greenery Courtyard สวนพักผ่อนที่เล่นกับการใช้เส้นสายของ Hard scape ที่ต่อเนื่องดูทันสมัย ในขณะเดียวกันก็แทรกมุมนั่งเล่นต่างๆ ล้อไปตามการสะบัดของเส้นสาย เพื่อให้บรรยากาศที่น่านั่งและให้ความ Cozy มากขึ้นแทรกไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น ตรงกลางของพื้นที่โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำ Urban Forest Pool หรือ Jacuzzi Pool สุดหรูที่สวยงามด้วยธรรมชาติของลวดลายหิน ซึ่งถูกยกขึ้นไปบนชั้น 2 และเปิดในส่วนด้านหน้าให้เป็นสระอะคริลิคที่สามารถให้มุมมองเชื่อมถึงกันได้จากทั้งมุมมองสวนและมุมมองในสระ ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าไปใช้งานในส่วนของสระหรือส่วนของห้องฟิตเนสที่อยู่ติดกันด้านใน

สำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้ออกแบบมอบตัวเลือกเป็น Facility แสนสงบบนชั้นดาดฟ้าที่ให้ทิวทัศน์ของเมืองและเชื่อมโยงกับทิวทัศน์สวนภายในชั้นล่าง โดยมีฟังก์ชันเป็น Forest Canopy Pool & Garden ที่ให้ใช้งานเป็นสระว่ายน้ำซึ่งมี Pocket Garden และพื้นที่สวนดาดฟ้าอีกหนึ่งจุดที่เชื่อมต่อกันระหว่างสองอาคารด้วยสะพาน ซึ่งสามารถเข้าถึงพื้นที่ทั้งหมด เชื่อมถึงกันได้อย่างอิสระ ที่ชั้นนี้จะเน้นความเป็นพื้นลายไม้ที่ให้ความอบอุ่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น และแทรกด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติที่ Link กับชั้น 1 ด้วย COTTO ITALIA COLLECTION ซีรี่ย์ BALZA สี ASH เช่นเดียวกันและเพิ่มความเรียบหรูในบริเวณสระทั้งหมดด้วยลายหินสีขาวของ COTTO ITALIA COLLECTION ซีรี่ย์ FLAGSTONE2.0 ที่ให้ความกลมกลืนเป็นธรรมชาติทำให้การออกแบบถูกเชื่อมต่อกันทั้งหมดเป็น Urban courtyard ที่มอบทั้งการใช้งานที่คุ้มค่า และความสวยงามที่ช่วยสร้าง Value ให้กับโครงการได้อย่างสูงสุด

วัสดุพืชพันธ์ถูกเลือกนำมาใช้ในทุกๆ พื้นที่ ซึ่งเน้นการจัดวางเล่นระดับได้อย่างน่าสนใจ เพื่อช่วยแต่งแต้มรายละเอียดผสมผสานกับเส้นสายของงาน Hard scape ได้อย่างมีชีวิตชีวา และยังช่วยซับกรองฝุ่นจากมลภาวะในอากาศ (Pollution absorb) เพื่อคืนความสดชื่นเข้าสู่ภายในอาคารได้เป็นอย่างดี

การเลือกใช้วัสดุก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและช่วยทำให้งานดีไซน์ภูมิทัศน์สวยสมบูรณ์แบบ ซึ่งปัจจุบันวัสดุกระเบื้องก็เป็นวัสดุที่ผู้ออกแบบนิยมเลือกนำมาใช้เพื่อทดแทนวัสดุหินธรรมชาติ เพราะความสวยงามที่เทียบเท่าหินแท้แต่ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า ช่างสามารถติดตั้งได้ง่าย จึงเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับหินแท้ที่มีความหนาและหนัก ซึ่งต้องใช้ช่างเฉพาะที่มีความชำนาญในการติดตั้งหิน อีกทั้งวัสดุหินยังมีรูพรุนจึงทำให้น้ำซึมขึ้นมาได้ เกิดเป็นรอยคราบด่างต่างๆ บนผิวที่ยากต่อการดูแลรักษา ซึ่งกลายมาเป็นค่าใช้จ่ายจากการบำรุงรักษาที่จะตามมา ในปัจจุบันวัสดุกระเบื้องจึงเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในโครงการนี้ผู้ออกแบบได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กระเบื้อง COTTO ITALIA COLLECTIONที่นอกจากคุณภาพที่สูง มีค่าการซึมน้ำที่ต่ำของวัสดุ ยังให้ความสวยงามแบบหินธรรมชาติซึ่งนำมาใช้ในการออกแบบได้อย่างลงตัว ด้วยลวดลายที่หลากหลายและแรนดอมดูเป็นธรรมชาติ ให้ลายที่สวยพอดีในพื้นที่ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับทั้งงานภายนอกและการใช้งานภายในสระ เพราะมีค่ากันลื่นที่เหมาะสม สามารถดูแลรักษาได้สะดวก จึงสวยงามยาวนาน ทำให้ผลิตภัณฑ์กระเบื้องของ COTTO เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ทั้งผู้ออกแบบและเจ้าของโครงการนึกถึงเพราะช่วยให้จบงานสวย คุ้มค่า ในงบประมาณที่เหมาะสม 

“Signature  ของ Redland-scape คือการออกแบบให้ไม่มี Signature ของ Designer แต่เราให้ความสำคัญมากๆกับการสร้าง Signature ของ Landscape ที่มีความเฉพาะตัวสำหรับแต่ละโครงการค่ะ” คุณเล็กกล่าวปิดท้ายกับเราด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเราเชื่อแล้วว่าสำหรับงานออกแบบโครงการหนึ่งไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบ แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคืองานออกแบบที่ให้ประโยชน์ต่อการใช้งานสูงสุด ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้งานออกแบบภูมิทัศน์ให้โครงการนี้ดูแตกต่างและมีเอกลักษณ์ในตนเอง สร้างภาพลักษณ์ของโครงการที่ยังสามารถต่อยอดไปได้อีกในอนาคต และที่สำคัญคือสร้าง “Maximize Value” ทั้งต่อตัวผู้ออกแบบและลูกค้าผู้อยู่อาศัยในโครงการ

ขอขอบคุณ
คุณนิภาพร วิบูลย์จักร์ จาก REDLAND-SCAPE LTD.

Photos by REDLAND-SCAPE LTD.
Article by Designsomething.com