นอกจากงานออกแบบเพื่อสรรสร้างอาคารใหม่ การดีไซน์เพื่อการแก้ปัญหาเป็นอีกหนึ่งงานที่ท้าทายไม่แพ้กัน เพราะทุกการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงนั้น ล้วนต้องเกิดจากความเข้าใจถึงปัญหาเดิมของพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถจัดการแก้ไขพื้นที่เก่าให้ดีขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานใหม่ได้อย่างลงตัว ซึ่งแน่นอนว่า การปรับปรุงภาพลักษณ์ของอาคารให้งดงามก็จะช่วยเติมความสดชื่นให้กับผู้เข้ามาใช้งานอาคาร โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ด้านหน้าซึ่งเป็นส่วนแรกที่ทุกคนจะเห็น
“ส่วนสำคัญของอาคาร Office Building คือส่วนทางเข้าหลักซึ่งเป็นพื้นที่แรกของลูกค้าที่เข้ามาใช้งานในอาคาร เป็นด่านแรกของความประทับใจ จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศให้แปลกใหม่สดชื่นขึ้นในโครงการนี้” คุณมาลินี พาณิชย์พงส์ จาก DESIGN M&A CO.,LTD กล่าวถึงแนวคิดสำคัญของ “การออกแบบปรับปรุงพื้นที่อาคารสำนักงานจามจุรีสแควร์” และให้เกียรติบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้ได้อย่างน่าสนใจ
“จามจุรีสแควร์” อยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) เป็นอาคารที่เชื่อมต่อกัน 3 ส่วน คือ ส่วนศูนย์การค้า ส่วนอาคารสำนักงาน และส่วนอาคารพักอาศัย ซึ่งเจ้าของโครงการมีความต้องการจะปรับปรุงพื้นที่ด้านหน้าของส่วนอาคารสำนักงานใหม่ เพื่อให้สวยงามเด่นชัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับอาคารอื่น ๆ ที่แข่งขันกันโดดเด่นในย่านธุรกิจบนเส้นถนนพระราม 4 โดยเน้นแนวความคิดในการจัดการพื้นที่ให้มีความทันสมัย คงความสวยงามไว้ในระยะยาว และที่สำคัญคือต้องคำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าเหมาะสม ดังนั้นทีมผู้ออกแบบจึงต้องเน้นการปรับปรุงในส่วนที่จำเป็น และออกแบบโดยเลือกใช้วัสดุที่ทนทานดูแลรักษาง่ายเพื่อลดภาระของการดูแลรักษาในระยะยาว
ในการวางแผนเพื่อการออกแบบและปรับปรุงอาคารครั้งนี้ ผู้ออกแบบจึงมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาของพื้นที่ ถึงแม้ว่า “จามจุรีสแควร์” จะตั้งอยู่บริเวณถนนพระราม 4 และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินได้อย่างสะดวกสบาย แต่การเข้าใช้งานอาคารก็ยังมีปัญหาในเรื่องของการจัดระบบ Circulation บริเวณส่วนทางเข้าหลักที่ทับซ้อนกันระหว่างทางเข้าที่จอดรถของลูกค้ากับส่วนพื้นที่ Drop-off ของรถยนต์ นอกจากนี้ทางเข้าหลักยังขาดความสวยงามดึงดูด ภายใน Lobby Hall ดูมืดตามเวลาที่ผ่านไป และตัวอาคารยังดูไม่ค่อยโดดเด่นเมื่อมองจากถนนพระราม 4 ในยามค่ำคืน
ในงาน Renovated จึงต้องเริ่มตั้งแต่การปรับภาพลักษณ์ภายนอกของอาคารให้น่าสนใจและเด่นชัดมากขึ้น ด้วยการติดตั้งโคมไฟภายนอกที่เหมาะสมเพื่อให้ดูสวยงามและเห็นชัดเจนในเวลากลางคืน และปรับปรุงส่วนทางเข้าใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาถึง ด้วยการปรับเปลี่ยน จัดแปลนที่จอดรถและเพิ่มซุ้มทางเข้าอาคารใหม่ โดยแยกส่วนพื้นที่ Drop-off และทางเข้าที่จอดรถออกจากกันเพื่อไม่ให้เกิดการทับซ้อนของ Circulation แบบเก่า
ในส่วนของ Drop-off นั้นผู้ออกแบบเน้นทางเข้าตั้งแต่ส่วนจอดรถ โดยปรับปรุงฝ้าเพดานใหม่ด้วยการใช้ Stretch ceiling ซ่อนไฟเพดานเพื่อช่วยให้ทางเดินได้ความสว่างแบบแสงธรรมชาติ และดึงความสนใจจากทางเข้าด้านนอกเข้าสู่ด้านในอาคาร ซึ่งในส่วนนี้ก็เน้นการสร้างบรรยากาศให้ต่อเนื่องเพิ่มขึ้นด้วยการใช้ฝ้าเพดาน Stretch ceiling ออกแบบสลับด้วยแพทเทิร์นสีดำ เป็นส่วนเชื่อมต่อความสัมพันธ์ของ 2 พื้นที่ ระหว่างส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าให้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังสร้างความสวยงามโปร่งสบายมากขึ้น และแก้ปัญหาของฝ้าเพดานบริเวณทางเข้าหลักที่ค่อนข้างต่ำด้วยวัสดุ Mirror Aluminium Cladding เพื่อปรับให้ space ของโถงดูสูงไม่อึดอัดแบบเก่า ส่วนพื้นที่ภายในที่เดิมค่อนข้างมืดผู้ออกแบบก็ปรับให้ดูสว่างขึ้นด้วยการเพิ่มฝ้า Stretch ceiling ในบริเวณที่ไม่ได้รับแสงธรรมชาติ
สิ่งสำคัญที่ทำให้งานปรับปรุงยังคงความเป็นเอกลักษณ์ คือการผสมผสานความเก่า-ใหม่เข้าด้วยกัน โดยเลือกเก็บเสาตกแต่งหินของเดิมที่ยังสวยดูดีทันสมัยเลือกรื้อเฉพาะฐานเสาหินแกรนิตเดิมออก และเปลี่ยนวัสดุพื้น Lobby ที่เป็นหินแกรนิตเทาเดิมซึ่งมีปัญหาเรื่องการซึมน้ำออกทั้งหมด ให้เป็นวัสดุกระเบื้องเนื้อแกร่งของ COTTO ITALIA COLLECTION ซีรี่ย์ MARBLE ONE สี Dolomite ลายหินอ่อนขาวดูเรียบหรู ที่เล่นพื้นผิวมันสลับด้านกลมกลืนไปกับเสาหินเดิม ด้วยคุณสมบัติเนื้อกระเบื้องแบบ Full body porcelain ซึ่งมีอัตราการดูดซึมน้ำ (Water absorption) ต่ำกว่า 0.5% เพื่อจบปัญหาความชื้น และให้ความสวยงามในระยะยาว เคาน์เตอร์ต้อนรับเลือกใช้เป็น COTTO GRANDE COLLECTION ซีรี่ย์ I BIANCHI DI REX สี PALISSANDRO ที่ยังคงให้ความงดงามของลวดลายหินแบบต่อเนื่องด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่พิเศษ
ส่วนของผนังก็เน้นการดูแลรักษาที่ง่ายเช่นกัน จึงยกเลิกวัสดุไม้เก่า และกรุด้วยกระเบื้อง COTTO ITALIA COLLECTION ซีรี่ย์ MARBLE ONE สี Volakas เล่นแพทเทิร์นกับเส้น Stainless เพื่อไม่ให้เรียบจนเกินไป โดยออกแบบผสมวัสดุกระจกซ่อนในบางตำแหน่งเพื่อความสวยงามแบบพอดี และสร้างความสนุกของลวดลายหินบริเวณผนังโถงลิฟต์ด้วยความหวือหวากับ COTTO ITALIA COLLECTION ซีรี่ย์ LES BIJOUX DE REX สี CALACATA ATISSIMO BLANC บนพื้น COTTO ITALIA COLLECTION ซีรี่ย์ MARBLE TWO สี Amani grey ที่เน้นลวดลายหินเยอะๆ เพื่อเปลี่ยนผ่านความรู้สึกก่อนขึ้นใช้งานบนอาคารชั้นอื่นๆ โดยในบริเวณโถงลิฟต์เดิมที่ค่อนข้างมืด ผู้ออกแบบก็ใช้การเปลี่ยนวัสดุฝ้าเป็น Mirror Aluminium Cladding สลับกับฝ้าเรียบเพื่อให้พื้นที่สว่าง สูงและให้มิติของการออกแบบที่น่าสนใจ
ซึ่งปัญหาของโครงการนี้ถูกคลี่คลายอย่างตรงประเด็นที่สุด โดยการออกแบบที่เน้นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอาคารเดิม ด้วยการเลือกใช้วัสดุร่วมสมัยเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการตกแต่งใหม่ ทั้งในส่วนของฝ้า พื้นและผนัง เพื่อปรับปรุง space ใหม่ให้สวยงามทันสมัยแต่ยังคงไว้ในเอกลักษณ์เดิม โดยพื้นผิวกระเบื้องในส่วนของพื้นและผนังจาก COTTO ITALIA COLLECTION ก็เข้ามาตอบโจทย์เรื่องของความทนทานที่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ Publicspace ที่เน้นการใช้งานหนักในระยะยาวได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลดภาระและลดต้นทุนในการดูแลรักษา ซึ่งตรงตามวัถตุประสงค์หลักของการออกแบบได้อย่างสูงสุด
ขอขอบคุณ
คุณมาลินี พาณิชย์พงส์ จาก DESIGN M&A CO.,LTD
Photos by Designsomething.com
Article by Designsomething.com