“P14 house” บ้านที่ผสานพื้นที่ภายนอกและภายในเป็นหนึ่งเดียว

จากอาคารพาณิชย์ 3 คูหา สู่บ้านที่ชื่อว่า “P14 house” ของ “คุณอั้น – สุรัชต์ สิทธิพรชัย”  โดดเด่นด้วยความโปร่งสบาย ในซอยปรีดีพนมยงค์ 14 ซึ่งมีพื้นที่บ้านรวมประมาณ 126 ตารางวา แบ่งเป็นสองส่วนคือสำนักงานและที่อยู่อาศัย แต่เชื่อมต่อกันด้วยแนวคิดการผสานพื้นที่ภายนอกและภายในเข้าด้วยกัน สร้างความรู้สึกกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ที่ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนในบ้านก็รู้สึกถึงธรรมชาติรอบนอกที่เชื่อมต่อกันอย่างลงตัว

Custom Made House บ้านที่ออกแบบตามใจผู้อยู่

“P14 house” บ้านสามชั้นดีไซน์เรียบเท่ สะท้อนตัวตนของเจ้าของในทุกตารางเมตรแห่งนี้ ที่วันนี้เปิดบ้านให้เราได้เดินชม พร้อมเรื่องเล่าสนุกๆ ผ่านสายตาของเจ้าของบ้าน ผู้มีความรู้ด้าน Interior Design

เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นอาคารพาณิชย์สามชั้นจำนวนสามตึก คุณอั้นเริ่มต้นจากการซื้อตึกแรกเพื่อทำสำนักงาน ในตอนนั้นอีกสองตึกที่เหลือยังมีผู้เช่าอยู่ แต่ตนเองก็เคยมีภาพในหัวในการเชื่อมต่อทุกตึกเข้าด้วยกัน หากวันใดวันหนึ่งสามารถเป็นเจ้าของได้ทั้งหมด ต่อมาอีกสองอาคารที่เหลือก็ประกาศขาย และทำให้คุณอั้นแปลงความคิดให้เป็นความจริง กับการมีบ้านหลังใหญ่ในพื้นที่ที่ตนเองคุ้นเคย

แต่เมื่อได้เป็นเจ้าของทุกตารางเมตรแล้ว บ้านหลังนี้ก็ไม่ได้เริ่มก่อร่างสร้างขึ้นมาทันที คุณอั้นทิ้งช่วงไปสักพักก่อนจะเริ่มพูดคุยกับสถาปนิกเพื่อวางแบบให้ตรงกับความต้องการที่สุด ด้วยความสนิทกับสถาปนิกนักออกแบบ และเรียนจบสถาปัตยกรรมด้าน Interior Design มาเช่นกัน คุณอั้นจึงเข้าใจดีว่า การจะสร้างบ้านให้ “Custom Made” ได้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของเจ้าของบ้านนั้น ต้องเริ่มตั้งแต่การพูดคุยกันระหว่างนักออกแบบและผู้อยู่อาศัยตั้งแต่วันแรก

“คนทั่วไปที่ไม่เคยทำงานกับสถาปนิกอาจไม่รู้ว่า วันแรกที่เราคุยกัน เราต้องบอกความต้องการของเราให้หมด ว่ามีคนใช้งานกี่คน นิสัยเป็นอย่างไร ต้องใช้ห้องกี่ห้อง ถ้าวันแรกที่คุยเราไม่คุยให้เข้าใจ มันก็จะไม่ได้บ้านที่ Custom made กลายเป็นบ้านแบบทั่วๆ ไปแทน”

“บ้านทุกส่วนของพี่ พี่ลงดีเทลกับสถาปนิกทุกอย่าง เช่น พี่อยากได้ห้องปาร์ตี้ใหญ่ๆ อยากเดินขึ้นบันไดแล้วได้เห็นต้นไม้ทุกวัน ห้องแต่งตัวอยากได้ใหญ่ๆ ห้องนอนไม่อยากได้เตียงนอนแบบทั่วไป สิ่งเหล่านี้ยิ่งลงรายละเอียดมากก็ยิ่งตรงกับความต้องการของเรามากเท่านั้น”

In & Out – Out & In เมื่อพื้นที่ภายนอกและภายในไร้เส้นแบ่ง

จากการสื่อสารกับสถาปนิกถึงความต้องการที่ชัดเจน สู่บ้านหลังจริงที่ตอบโจทย์ในทุกพื้นที่ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แบบที่เรามองจากด้านนอกเข้าไป ก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากบ้านอื่นๆ เสน่ห์ในความเรียบง่ายและเลเยอร์ที่ผสานกันในทุกๆ ส่วนของบ้านทั้งด้านในและด้านนอก มีที่มาจากคอนเซปต์ที่เรียกว่า “In & Out – Out & In” 

“In & Out – Out & In” คือแนวคิดการออกแบบที่ดึงพื้นที่ภายในให้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ภายนอก และในขณะเดียวกัน พื้นที่ภายนอกก็สามารถประสานกับพื้นที่ภายในได้ด้วย ราวกับไร้เส้นแบ่งที่ชัดเจนของพื้นที่ทั้งสองส่วน ซึ่งเป็นความตั้งใจของเจ้าของบ้าน เพื่อลบภาพของอาคารพาณิชย์เดิมออกไป และรังสรรค์ความเป็นบ้านเข้ามาให้มากที่สุด

อย่างเช่นชั้นที่สองของบ้าน โซนห้องอาหารที่ทำผนังเป็นกระจกใส ทำให้มองออกไปเห็นบรรยากาศต้นไม้ภายนอก แล้วยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับดาดฟ้าหลังคาของโรงจอดรถ เพิ่มสเปซใช้สอยเอาต์ดอร์ที่เชื่อมกับอินดอร์อย่างเรียบเท่

“ตึกเดิมเป็นทาวน์เฮาส์ที่มีลักษณะเป็นตึกแบบทั่วๆ ไป แต่พอเราจะทำเป็นบ้านที่ทุกพื้นที่รวมกัน เราเลยมีโจทย์ว่า ทำยังไงให้ทำลายความเป็นทาวน์เฮาส์ไป และกลายเป็นบ้านแทน ซึ่งในความเป็นบ้านเราก็อยากจะดึงความเป็นธรรมชาติภายนอกให้เข้ามาภายในบ้าน จะเห็นได้ว่า ทั้งบ้านนี้เมื่อนั่งในบ้านจะรู้สึกเหมือนอยู่ในพื้นที่เอาต์ดอร์ เพราะมีการให้พื้นที่ภายนอกสอดเข้ามาภายในบ้าง และมีพื้นที่ภายในยื่นไปข้างนอกบ้าง ทั้งสองส่วนผสานกันทั้งหมด”

Natural Blended การเชื่อมต่อด้วยลวดลายธรรมชาติ

เพื่อทลายเส้นแบ่งของพื้นที่ออกไป โครงสร้างส่วนผนังที่เป็นกรอบของบ้านจึงเลือกใช้เป็นกระจก โชว์ความโปร่ง โล่ง ผสานกับลวดลายกระเบื้องที่คล้ายกับลวดลายของหินธรรมชาติ ตั้งแต่กำแพงด้านนอก จนถึงพื้นที่ภายใน ซึ่งเลือกใช้เป็นกระเบื้อง ITALIA COLLECTION จาก COTTO ทั้งหมด

“บ้านหลังนี้เลือกใช้กระเบื้อง ITALIA COLLECTION จาก COTTO ทั้งหมด เพราะได้ลวดลายที่ไม่เป็นแพทเทิร์นเหมือนกระเบื้องทั่วไป เป็นจุดเด่นในการที่มีลายไม่ซ้ำกัน ให้ความรู้สึกใกล้เคียงหิน แต่มีความแข็งแรงและมีคุณสมบัติที่ดีกว่าหิน”

ITALIA COLLECTION ซีรีส์ ONYX&MORE สี SILVER PORPHYRY

หากมองตรงเข้ามาจากประตูรั้ว จะเห็นกำแพงสองเลเยอร์ที่ต้อนรับเราอยู่ นั่นคือจุด Approach รับสายตา ให้ความรู้สึกน่าค้นหา และเป็น Transition Space ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่สองส่วนคือ พื้นที่ภายนอกและพื้นที่ภายใน กำแพงตรงนี้จึงเลือกกระเบื้องแผ่นใหญ่ที่มีลวดลายแบบแรมดอม และที่สำคัญคือต้องให้ความเป็นธรรมชาติ ซึ่งกระเบื้อง COTTO ITALIA ซีรีส์ ONYX&MORE สี SILVER PORPHYRY สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยพื้นผิวและลวดลายที่น่าสนใจ

(ผนัง) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ ONYX&MORE สี SILVER PORPHYRY
(พื้น) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ WALK สี BLACK

“ผนังตรงนี้พี่เลือกกระเบื้องมา 2-3 ลายแล้วให้สถาปนิกช่วยเลือกอีกที โดยเราต้องการให้มันดูธรรมชาติ ให้มีลวดลายของธรรมชาติเข้ามาในบ้าน เราจึงเลือกลายที่มีเท็กเจอร์เยอะ ลายเยอะหน่อย เพราะมันเป็นจุดเชื่อมภายนอกเข้ามาภายใน” 

พื้นที่เอาต์ดอร์ที่อยู่ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนเปียกซึ่งติดตั้งฝักบัวสำหรับชำระร่างกาย บริเวณพื้นจึงเลือกใช้เป็น ITALIA COLLECTION ซีรีส์ WALK สี BLACK ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง และยังเข้ากันกับ ซีรีส์ ONYX&MORE สี SILVER PORPHYRY ส่วนผนังอีกด้วย

(พื้น) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ NEO BASALT สี GRAPHITE

เมื่อเดินผ่านกำแพงเข้ามาจะพบทางเดินเข้าตัวบ้าน ข้างกันมีบ่อปลาที่สามารถมองจากด้านในออกมาได้ ตามคอนเซปต์ความกลมกลืนของพื้นที่ ในส่วนของบ้านพักอาศัย ห้องแรกที่เราจะได้สัมผัสคือห้องนั่งเล่นที่มีสเปซกว้างขวาง ด้วยพื้นสีดำจาก ITALIA COLLECTION ซีรีส์ NEO BASALT สี GRAPHITE ซึ่งนอกจากจะให้ Mood & Tone ที่ดีแล้ว ยังมีความแข็งแรงอย่างมาก บวกกับผนังห้องโทนสีอ่อนพร้อมลวดลายที่ดูน่าค้นหา ก็ทำให้ห้องนั่งเล่นกลายเป็นพื้นที่สุดพิเศษได้ง่ายๆ 

โซนบันไดที่จะพาเราขึ้นสู่ชั้นสองและสาม ยังโดดเด่นด้วยผนังขนาดใหญ่ จากพื้นชั้นหนึ่งจรดเพดานชั้นสาม เล่นลวดลายหินธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสง่างามด้วยกระเบื้อง COTTO ITALIA ซีรีส์ BALZA สี ASH ที่มีลวดลายเยอะคล้ายกำแพงภายนอก แต่ผิวจะละเอียดกว่า มีความเข้ากันกับพื้นที่ภายในมากขึ้น เมื่อประกอบเข้ากับพื้นจากซีรีส์ NEO BASALT สี GRAPHITE โทนสีดำ ก็ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูลงตัวยิ่งขึ้น

(ผนัง) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ BALZA สี ASH
(พื้น)ITALIA COLLECTION ซีรีส์ NEO BASALT สี GRAPHITE
(ผนัง) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ BALZA สี ASH

“ถ้ายืนอยู่ฝั่งออฟฟิศ แล้วมองจากหน้าต่างผ่านต้นไม้มา ก็จะเห็นผนังตรงบันไดนี้ที่เป็นบันไดโล่งสามชั้นเชื่อมต่อกัน และมีกระเบื้องเป็นแบ็กกราวนด์ เป็นจุดที่เราเห็นแล้วรู้สึกทันทีว่าสวยมาก มันดูเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอิมแพ็กมาก ด้วยขนาดที่ใหญ่และลายที่สวยงาม”

(พื้น) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ NEO BASALT สี CENERE

นอกจากนี้ ห้องอื่นๆ ของบ้านก็มีการใช้กระเบื้อง COTTO ITALIA สะท้อนเรื่องราวความผสมกลมกลืนของธรรมชาติภายนอกเข้ามาภายในอีกหลากหลายจุด เช่น พื้นห้องนั่งเล่นปาร์ตี้ด้านบน ได้เลือกใช้ ซีรีส์ NEO BASALT สี CENERE โทนสีครีมที่ซ่อนลูกเล่นในลวดลายธรรมชาติบนพื้นกระเบื้อง ทำให้ภาพรวมของห้องดูอบอุ่นและมีลูกเล่นภายใต้ภายเรียบง่ายแบบมินิมอล

(พื้น) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ BALZA สี CARBON
(Bathtub) ITALIA COLLECTION ซีรีส์ PREXIOUS OF REX สี THUNDER NIGHT
(ผนังบริเวณสุขภัณฑ์/ชาวเวอร์)  ITALIA COLLECTION ซีรีส์ SENSO DI MARMO สี MYSTIC BROWN

ส่วนพื้นห้องครัวก็มีการใช้ ซีรีส์ BALZA สี CARBON ที่เพิ่มความน่าสนใจด้วยลายแร่สีขาว รวมถึงห้องน้ำอันเรียบหรูด้วย ซีรีส์ PREXIOUS OF REX สี THUNDER NIGHT และ ซีรีส์ SENSO DI MARMO สี MYSTIC BROWN อีกด้วย

พื้น ITALIA COLLECTION ซีรีส์ NEO BASALT สี GRAPHITE
ผนัง ITALIA COLLECTION ซีรีส์ BALZA สี ASH

บ้านหลังใหญ่ที่โอบรับทุกพื้นที่เข้าด้วยกันหลังนี้ คือบ้านที่ออกแบบมาอย่างรู้ใจผู้อยู่อาศัย เป็นทั้งที่พักพิงและทำงาน ตอบโจทย์ให้ทุกช่วงเวลาของชีวิต เพียงการได้มาเยือนในระยะเวลาสั้นๆ ก็รับรู้ถึงความเป็นธรรมชาติที่อยู่ในทุกอณูของพื้นที่ ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นในบ้านที่เหมือนนั่งในสวน จนถึงห้องทานอาหารที่ร่มรื่นสบายตาแม้เป็นพื้นที่ด้านใน ความสวยงามและฟังก์ชันที่ลงตัวนี้ล้วนผสมอยู่ใน P14 House ที่น่าจะเป็นไอเดียให้คนอยากมีบ้านได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ขอขอบคุณ
คุณอั้น – สุรัชต์ สิทธิพรชัย